เคยไหม? นั่งทำงานเพลินๆ จู่ๆ ก็ปวดคอ ปวดบ่า ปวดหลัง ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายก็ไม่หาย ปวดมากขึ้นจนนอนไม่หลับ นั่นแหละคือสัญญาณเตือนของ "ออฟฟิศซินโดรม" โรคยอดฮิตของเหล่าพนักงานออฟฟิศ
ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร?
ออฟฟิศซินโดรม ไม่ได้เป็นโรค แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งทำงานนานๆ ท่าเดิมๆ ก้มหน้าดูคอมพิวเตอร์ นอนหงายบนหมอนสูงๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ เกร็งและอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง
อาการของออฟฟิศซินโดรม
ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ หลัง
ปวดตึงบริเวณข้อมือ
ชาตามปลายนิ้ว
อ่อนเพลีย
ปวดศีรษะ
มึนงง
สายตาพร่ามัว
นอนไม่หลับ
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม
ท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม: นั่งทำงานนานๆ ท่าเดิมๆ ก้มหน้าดูคอมพิวเตอร์ นอนหงายบนหมอนสูงๆ
สภาพแวดล้อมการทำงาน: แสงสว่างไม่เพียงพอ โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์การทำงานไม่เหมาะกับสรีระ
ความเครียด: ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ
โรคประจำตัว: โรคกระดูกคอเสื่อม โรคหมอนรองกระดูกคอ
วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรม
ปรับท่าทางการทำงาน: ปรับโต๊ะ เก้าอี้ ให้เหมาะกับสรีระ นั่งหลังตรง พักสายตาบ่อยๆ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกๆ 1 ชั่วโมง
ปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน: ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ
ออกกำลังกาย: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เล่นโยคะ ยืดกล้ามเนื้อ
ลดความเครียด: หาเวลาพักผ่อน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ตรวจสุขภาพ: ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
วิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม
ยา: ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ
กายภาพบำบัด: นวดแผนไทย ฝังเข็ม
การรักษาด้วยความร้อน/ความเย็น: ประคบร้อน/ประคบเย็น
การผ่าตัด: กรณีอาการรุนแรง
ออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ พนักงานออฟฟิศทุกคนควรใส่ใจสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรม
#ออฟฟิศซินโดรม #โรคยอดฮิตคนออฟฟิศ #ปวดคอ #ปวดบ่า #ปวดหลัง #ชา #ชาปลายนิ้ว #อ่อนเพลีย #ปวดศีรษะ #มึนงง #สายตาพร่ามัว #นอนไม่หลับ #ปรับท่าทางการทำงาน #ออกกำลังกาย
#ลดความเครียด #ป้องกัน #รักษา #กายภาพบำบัด #สุขภาพ #พนักงานออฟฟิศ
Comentários